โปรแกรมทัวร์อินเดีย สังเวชนียสถาน
ทัวร์แสวงบุญอินเดีย สังเวชนียสถาน 4 ตำบล
8-15 ตุลาคม 2564 (8วัน7คืน)
รายละเอียดย่อ
สถานที่ไปชม | สังเวชนียสถาน 4 ตำบล+เมืองสำคัญ |
สถานที่ตรัสรู้ : พุทธคยา สถานที่แสดงปฐมเทศนา : สารนาถ สถานที่ประสูติ : ลุมพินี สถานที่ปรินิพพาน : กุสินารา เมืองสำคัญตามเส้นทาง : ราชคฤห์ นาลันทา ไวสาลี สาวัตถี |
สายการบิน |
Air Asia Fd122/123 (บินตรงคยา) |
น้ำหนักกระเป๋า โหลดใต้ท้องเครื่องไม่เกิน 20 kgs ติดตัวขึ้นเครื่องไม่เกิน 7 kgs |
ที่พัก |
วัดไทย+โรงแรม |
ห้องละ 2-4 ท่าน มีห้องน้ำในตัว พุทธคยา : วัดเนรัญชราวาส ราชคฤห์ : วัดไทยเวฬุวัน(วัดไทยสิริราชคฤห์) กุสินารา : วัดกุสาวดีพุทธวิหาร ลุมพินี : Zambala Hotel สาวัตถี : วัดไทยสาวัตถี พาราณสี : Hotel SGT Plaza |
ราคา |
38,500 บาท จอง 2 ท่านลดเหลือ 37,500 จอง 3 ท่านลดเหลือ 37,000 |
ราคารวม
ราคาไม่รวม
มีค่าทิปเจ้าหน้าที่ทัวร์(คนขับรถ เด็กรถ ไกด์อินเดีย เจ้าหน้าที่ยกกระเป๋าของวัด) ท่านละ 800 บาท /คน |
โปรแกรมทัวร์
วันที่ 1 : 8 ตุลาคม 2564 กรุงเทพ (ดอนเมือง) - คยา - ราชคฤห์
04.30น. | พร้อมกันที่สนามบินดอนเมือง อาคาร 1 ผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ประตู 1 สายการบิน Air Asia |
08.20น. | ออกเดินทางสู่เมืองคยา โดยสายการบิน Air Asiaไฟลท์ fd122 กรุงเทพ-คยา ทานอาหารเช้าบนเครื่อง |
10.40น. | ถึงสนามบินคยา |
12.00น. | ทานอาหารกลางวันที่วัดเนรัญชราวาส |
13.00น. |
เดินทางเมืองราชคฤห์ (ระยะทาง 95 กม. ระยะเวลาเดินทางโดยประมาณ 2.50 ชม.)
|
18.00น. | ทานอาหารเย็น ทำบุญทอดผ้าป่าและพักผ่อนที่วัดไทยสิริราชคฤห์ |
ข้อมูลน่ารู้ตามเส้นทางสังเวชนียสถาน
ราชคฤห์ไม่ได้เป็นที่ตั้งของสังเวชนียสถาน 4 ตำบลแห่งใดเลย แต่เป็นเมืองสำคัญมากในยุคพุทธกาลเพราะเป็นเมืองหลวงแห่งแคว้นมคธ 1 ในแคว้นมหาอำนาจในยุคนั้น ปกครองโดยพระเจ้าพิมพิสารพระเจ้าพิมพิสารเคยเจอเจ้าชายสิทธัตถะแล้วก่อนแล้วเมื่อครั้งทรงออกบวชและเดินมาจากกบิลพัสดุ์ แคว้นสักกะ ด้วยวรรณะ ผิวพรรณ หน้าตา เมื่อมาถึงราชคฤห์ชาวบ้านก็อื้ออึงกันถึงความงามจนพระเจ้าพิมพิสารเสด็จไปพบพร้อมเสนอให้ออกจากเพศนักบวชแล้วมาช่วยกันปกครองแคว้นมคธ เจ้าชายสิทธัตถะทรงปฏิเสธไป พระเจ้าพิมพิสารจึทูลขอว่าหากทรงตรัสรู้ธรรมเมื่อใดให้มาโปรดท่านด้วย เมื่อเจ้าชายสิทธัตถะตรัสรู้อนุตตระสัมมาสัมโพธิญาณใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์แล้ว ก็ทำตามคำมั่นที่ให้ไว้ทรงเสด็จกลับไปโปรดพระเจ้าพิมพิสาร และพุทธศาสนาก็ตั้งมั่นที่ราชคฤห์เป็นแห่งแรกในโลก นับจากนั้นเป็นต้นมา
วัดเวฬุวันมหาวิหาร วัดแห่งแรกในพุทธศาสนา | กุฏิพระพุทธเจ้าบนยอดเขาคิชกูช ราชคฤห์ | หลวงพ่อองค์ดำ นาลันทา เตรียมน้ำมันมะพร้าวไปทาขอพรเรื่องสุขภาพค่ะ |
วันที่ 2 : 9 ตุลาคม 2564 / ราชคฤห์ - นาลันทา -ไวสาลี - กุสินารา
สถานที่จะพาญาติธรรมไปกราบสักการะ : สังเวชนียสถานแห่งที่ 2 สถานที่ปรินิพพาน, มกุฏพันธนเจดีย์ สถานที่ถวายพระเพลิงพระบรมศพ
ช่วงเช้า |
ทานอาหารเช้าที่วัดและออกเดินทางสู่เมืองกุสินารา ระหว่างทางแวะนาลันทาเพื่อไปกราบสักการะ
เรื่องราวเหล่านี้แค่เกริ่นๆค่ะ พอไปถึงสถานที่จริงๆได้ฟังวิทยากรกันเพลินหู ดูข้างทางกันเพลินตาแน่นอนค่ะ หลังจากนั้นเดินทางผ่านสะพานที่ยาวที่สุดในอินเดีย สะพานมหาตมะคานธี เข้าสู่เมืองไวสาลีเมืองเดิมตั้งแต่สมัยพุทธกาลระหว่างทางแวะกราบสักการะ
เสาอโศกนั้นเป็นจุดหมุดหมายสำคัญในการแสดงว่าสถานที่นี้คือสังเวชนียสถาน เสาอโศกสร้างโดยพระเจ้าอโศกมหาราช กษัตริย์ในราชวงศ์เมารยะ ช่วงยุคหลังพระพุทธเจ้าประมาณ 200 ปี ท่านเป็นกษัตริย์ที่มีคุณูปการยิ่งใหญ่ในพุทธศาสนาของเรา ในเส้นทางสังเวชนียสถาน เสาอโศกที่ไวสาลีเป็นต้นที่สมบูรณ์ที่สุด แต่เราจะไปเห็นหัวเสา แค่หัวเสาที่สมบูรณ์ที่สารนาถ พาราณสีกันค่ะ หลังจากนั้นเดินทางต่อสู่เมืองเกสรียา แวะชมมหาสถูปเกสรียา สถูกต้นแบบของบุโรพุทโธ ประเทศอินโดนีเซียในปัจจุบันและเดินทางต่อสู่กุสินารา
|
ช่วงค่ำ | ทานอาหารเย็นและเข้าที่พักที่วัดกุสาสดี พุทธวิหาร |
ข้อมูลน่ารู้ตามเส้นทางสังเวชนียสถาน
กุสินาราในสมัยพุทธกาลเป็นเมืองเล็กในแคว้นมัลละ แต่สมัยดั้งเดิมก่อนยุคพุทธกาลเป็นเมืองใหญ่มากชื่อเมืองกุสาวดี ปกครองโดยพระเจ้ามหาสุทัสสนะ ยิ่งใหญ่มากในช่วงนั้น ของวิเศษใดๆที่หาได้เป็นของพระเจ้ามหาสุทัสสนะหมด ซึ่งพระเจ้ามหาสุทัสสนะก็คือชาติภพก่อนๆของพระพุทธเจ้าและท่านก็กลับมาปรินิพพานที่กุสินาราแห่งนี้
ไวสาลี ชื่อเดิมก็คือไวสาลี ที่แห่งนี้คือต้นกำเนิดระบอบประชาธิปไตยแห่งแรกของโลก ไวสาลีเป็นเมืองหลวงของแคว้นวัชชี พระเจ้าอชาตศัตรูอยากได้วัชชีมานานมาก แต่ด้วยหลักธรรมและหลักการปกครองของเจ้าลิจฉวี (ชื่อของชนชั้นปกครองของวัชชี) จึงทำให้ตีไม่ได้เสียที จนพรรษาสุดท้ายของพระพุทธเจ้า พระเจ้าอชาตศัตรูส่งวัสสการพรามณ์ไปถามความเมือง จริงๆพระพุทธเจ้าไม่ได้แนะแต่ระดับที่ปรึกษากษัตริย์แค่นั่งฟังก็ได้ไอเดียจึงออกอุบายกับพระเจ้าอชาติศัตรูสุดท้าย วัชชีก็ตกเป็นของแคว้นมคธหลังจากพุทธปรินิพพาน
มหาปรินิพพานสถูป สร้างครอบสถานที่เสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน กุสินารา | มกุฏพันธนเจดีย์ สถานที่ถวายพระเพลิงพระบรมสรีระ กุสินารา | เสาอโศก ณ วัดป่ามหาวัน ไวสาลี สถานที่กำนดน้ำพระพุทธมนต์และภิกษุณี |
วันที่ 3 : 10 ตุลาคม 2564 : กุสินารา - ลุมพินี
สถานที่พาญาติธรรมไปกราบสักการะ : สังเวชนียสถานแห่งที่ 3 สถานที่ประสูติ
ช่วงเช้า |
ทานอาหารเช้าที่วัดและออกเดินทางสู่ด่านชายแดนอินเดีย เนปาล เสาโนรี ก่อนจะข้ามด่านแวะพักทานโรตีและเข้าห้องน้ำก่อนข้ามด่านที่วัดไทยนวราชย์รัตนาราม 960 ผ่านกระบวนการตรวจคนออกเมืองกันก่อนแล้วเดินทางไปสู่จุดหมายของเรา
|
ช่วงเย็น | ทานอาหารเย็น พักผ่อนที่วัดไทยลุมพินี |
ข้อมูลน่ารู้ตามเส้นทางสังเวชนียสถาน
ลุมพินี ปัจจุบันอยู่ในเขตแดนของประเทศเนปาลแต่สมัยเดิมลุมพินีตั้งอยู่ในเขตแดนของอินเดียตั้งแต่สมัยอินเดียยังเป็นมหาชนบท (มหาชนบทแปลว่าเมืองเจริญ) ลุมพินีดั้งเดิมคือสถานที่บริเวณแคว้นสักกะบ้านเกิด บ้านพ่อของเจ้าชายสิทธัตถะ ถึงแม้ว่าปัจจุบันจะอยู่ในประเทศเนปาล เราก็จะมากราบกันค่ะ ราคาทัวร์รวมวีซ่าเนปาลแล้วค่ะ ลุมพินีไม่ใช่เมืองแต่เป็นสวนพักระหว่างเมือง ที่เจ้าชายสิทธัตถะมาประสูติที่ลุมพินีเพราะในสมัยพุทธกาลเป็นธรรมเนียมของหญิงที่จะเดินทางไปคลอดที่บ้านแม่ แต่พระนางสิริมหามายาไปไม่ทัน จึงทรงมีประสูติกาลที่สวนลุมพินี
![]() |
||
แวะทาโรตี ชา กาแฟที่ วัดไทยนวราชย์รัตนาราม ก่อนข้ามด่านเนปาล | พระโพธิสัตว์เจ้าชายสิทธัตถะ ลุมพินี | วิหารมายาเทวี สร้างครอบสถานที่ประสูติ |
วันที่ 4 : 11 ตุลาคม 2564 ลุมพินี - สาวัตถี
สถานที่พาญาติธรรมไปกราบสักการะ : วัดเชตวันมหาวิหาร สร้างถวายโดยอนาคบิณฑิกเศรษฐี
ช่วงเช้า |
ทานอาหารเช้าที่วัดและออกเดินทางไปกลับอินเดีย ผ่านกระบวนการเข้าเมืองของอินเดียและแวะพักทานโรตีและเข้าห้องน้ำก่อนข้ามด่านที่วัดไทยนวราชย์รัตนาราม 960 กันอีกสักครั้ง เป็นโอกาสที่ดีสำหรับท่านที่ติดใจโรตีอรีดอยของที่วัดค่ะ หลังจากนั้นเดินทางต่อสู่สาวัตถี มหานครคนดี สาวัตถีเป็นเมืองหลวงของแคว้นโกศล สมัยพุทธกาลสาวัตถีจึงเป็นเมืองใหญ่มีคนมาศัยอยู่มากมาย เจ้าครองแคว้นคือพระเจ้าปเสนทิโกศลผู้ซึ่งรักและศรัทธาในตัวพระพุทธเจ้ามาก จนอยากดองด้วยถึงขั้นส่งคนไปเจ้าหญิงจากแคว้นสักกะมาแต่งงาน จนสุดท้ายกลายเป็นโศกอนาฏกรรมล้างวงศ์วานของพระพุทธเจ้า (หากอยากฟังต่อ จองทัวร์เลยค่ะ)ที่นี่เป็นที่ที่พระพุทธเจ้าประทับนานที่สุดถึง 25 พรรษา จึงตรัสสอนพระสูตรมากมายที่นี่ เราจะไปกราบสักการะสถานที่สำคัญเหล่านี้
|
ช่วงเย็น | ทานอาหารเย็น ทอดผ้าป่าและพักผ่อน ณ วัดไทยสาวัตถีวิปัสสนา |
ข้อมูลน่ารู้ตามเส้นทางสังเวชนียสถาน
สาวัตถี เป็นอีกเมืองที่ไม่ได้เป็นที่ตั้งของสังเวชนียสถาน แต่เป็นอีกเมืองสำคัญของประวัติศาสตร์พุทธศาสนา สาวัตถีอย่างที่กล่าวไปว่าเป็นเมืองหลวงของแค้นโกศล ในสมัยพุทธกาลโกศลเป็นแคว้นใหญ่พอๆกับมคธและมีความเกี่ยวข้อง เกี่ยวดองกับพระพุทธเจ้า ด้วยความที่ทรงประทับที่นี่นานถึง 5 พรรษา จึงเกิดเหตุการณ์ เกิดพระสูตรมากมายที่นี่ ดังนั้นสาวัตถีจึงเป็นเมืองที่พลาดไม่ได้ รวมถึงวัดเชตวันที่เราจะพาไปกราบสักการะ เป็นอีกวัดใหญ่ วัดดังเดิมในพุทธศาสนา การได้ไปกราบสักการะสักครั้งจึงเป็นโอกาสสำคัญของเรามากค่ะ
กุฏิพระพุทธเจ้า ณ วัดเชตวันมหาวิหาร | ต้นอานันทโพธิ์ ปลูกจากกน่อต้นพระศรีมหาโพธิ์ต้นแรก |
วันที่ 5 : 12 ตุลาคม 2564 สาวัตถี - พาราณสี
สถานที่พาญาติธรรมไปกราบสักการะ : สังเวชนียสถานแห่งที่ 4 ธัมเมกขสถูป สถานที่แสดงปฐมเทศนา พิพิธภัณฑ์สารนาถ ล่องแม่น้ำคงคา
ช่วงเช้า |
ทานอาหารเช้าที่วัดและออกเดินทางสู่เมืองพาราณสี แห่งแคว้นกาสีในสมัยพุทธกาล พาราณสีเป็นเมืองใหญ่ เมืองสำคัญที่ปัจจุบันก็ยังสำคัญอยู่ หลังจากตรัสรู้ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์แล้ว ทรงพิจารณาถึงคนที่จะสอนได้ และเล็งเห็นว่าเหล่าปัญจวัคคีย์นี้ล่ะที่มีธุลีในตาน้อยพอจะเข้าใจธรรมที่ทรงค้นพบจึงเดินจากพุทธคยามาพาราณสี พบปัญจวัคคีย์และเทศน์สอนธรรมบทแรก ธัมจักรกัปปวัตรสูตร (เราจะสวดมนต์บทนี้กันที่สถานที่จริง หัดสวดไปได้เลยนะคะ)
หลังจากนั้นพาท่านไปชมวิถีชีวิตชาวอินเดีย ที่ใช้ชีวิตแบบนี้มากว่า 4,000 ปี ณ ริมฝั่งแม่น้ำคงคา
|
ช่วงเย็น | ทานอาหารเย็น ทอดผ้าป่าและพักผ่อน ณ วัดไทยพาราณสีวิปัสสนา |
ข้อมูลน่ารู้ตามเส้นทางสังเวชนียสถาน
พาราณสี เป็นเมืองสำคัญของโลกในแง่สังคม วัฒนธรรม อารยธรรม ที่นี่ถูกกครองสลับกันไปมาระหว่างเจ้านครฮินดูและอิสลามจนถึงช่วงอังกฤษ แม่น้ำคงคาเป็นไฮไลท์ของนักท่องเที่ยวทั่วโลก แต่ถึงแม้จะเป็น Top Destination ขาดนี้ พระพุทธเจ้าเสด็จมาที่นี่แค่ครั้งเดียว อยู่จำพรรษาเดียวคือช่วงเวลาหลังจากตรัสรู้และมาโปรดปัญจวัคคีย์ หลังจากนั้นไม่เสด็จมาที่นี่อีกเลยค่ะ
ธัมเมกขสถูป สถานที่แสงปฐมเทศนา | ล่องแม่น้ำคงคา ชมวิถี พิธี ชีวิตของคนอินเดีย | พิพิธภัณฑ์สารนาถ เก็บรักษาพระพุทธรูปปางปฐมเทศนาที่งดงามที่สุด |
วันที่ 6 : 13 กันยายน 2564 พาราณสี - พุทธคยา
สถานที่พาญาติธรรมไปกราบสักการะ : ดงคสิริ สถานที่บำเพ็ญทุกรกริยา ชมสถานที่สำคัญตามพุทธประวัติ
ช่วงเช้า |
ทานอาหารเช้าที่วัดและออกเดินทางสู่พุทธคยา สถานที่สำคัญของเราย้อนเส้นทางการเดินทางของพระพุทธเจ้า ท่านเดินเท้าจากพุทธคยาไปพาราณสีแต่เรานั่งรถจากพาราณสีไปพุทธคยาระหว่างจะผ่านบริเวณป่าฝ้าย สถานที่พบภัทวัคคีย์ที่มาฮันนีมูนกับภรรยา แต่มีท่านหนึ่งยังไม่แต่งงานจึงจ้างนางโสเภณีมาเอนเตอร์เทน จนเกิดเรื่องราววุ่นวาย แต่สุดท้ายบรรลุธรรมกันหมด เมื่อถึงพุทธคยาเราจะไปชมสถานที่สำคัญดังนี้ (สลับได้ตามเวลาและสถานการณ์หน้างาน)
|
ช่วงเย็น | ทานอาหารเย็น และพักผ่อน ณ วัดเนรัญชราวาส |
ข้อมูลน่ารู้ตามเส้นทางสังเวชนียสถาน
พุทธคยา ชื่อเดิมคืออุรุเวลาเสนานิคม ที่นี่นอกจากเป็นที่ตั้งของสังเวชนียสถาน ต้นพระศรีมหาโพธิ์ สถานที่ตรัสรู้แล้ว ยังมีกลุ่มพระสงฆ์กลุ่มแรกๆที่ทรงมาโปรดนั่นคือเหล่านักบวชชลิล ชลิลคือนักบวชกลุ่มหนึ่งเน้นการบูชาไฟ หลังจากโปรดปัญจวัคคีย์ทั้ง 5 แล้ว ทรงเดินกลับมาเพื่อมาสอนชลิลกลุ่มนี้ ทั้งที่ชลิลกลุ่มนี้อยู่ใกล้กว่าแต่กลับไม่สอนก่อน ทรงเดิน 11 วันไปที่พาราณสี เพื่อไปโปรดปัญจวัคคีย์แล้วค่อยกลับมาสอนชลิล นั่นแสดงว่าท่านต้องมีเหตุผลแน่นอน หากเราศึกษาพุทธประวัติในเชิงประจักษ์แนวนี้ เราจะเข้าใจการทำงาน วิธีการสอนของพระพุทธเจ้ามากขึ้นแน่นอนค่ะ
เขาดงคสิริ สถานที่พระโพธิสัตว์บำเพ็ญทุกรกริยานาน 6 ปี | วัดภูฐาน วัดนานาชาติรอบพุทธคยา |
วันที่ 7 : 14 ตุลาคม 2564 พุทธคยาเต็มวัน
สถานที่พาญาติธรรมไปกราบสักการะ : ปฏิบัติธรรมอิสระต้นพระศรีมหาโพธิ์ ช้อปปิ้งของฝาก
ช่วงเช้า |
ทานอาหารเช้าที่วัด และออกมาที่ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ให้เวลาสำหรับปฏิบัติส่วนตัวอิสระตามอัธยาศัย กลางวันกลับไปทานอาหารที่วัดเนรัญและทอดผ้าป่าบำรุงวัดและช่วงบ่าย ตารางสบายๆค่ะ
|
ช่วงเย็น | ทานอาหารเย็น และพักผ่อน ณ วัดเนรัญชราวาส |
รูปหมู่สวยๆ ณ เจดีย์มหาโพธิ์ วันสุดท้ายมีเวลาเยอะ ตามเก็บถ่ายรูปสวยๆให้ทุกคนค่ะ |
ร่วมห่มผ้าถวายพระพุทธเมตตา | รูปหมู่ภายในวิหารพระพุทธเมตตา | ร่วมทอดผ้าป่าบำรุงวัดเนรัญชราวาส |
วันที่ 8 : 15 ตุลาคม 2564 พุทธคยา - กรุงเทพ
ช่วงเช้า |
ทานอาหารเช้าที่วัด และออกเดินทางสู่สนามบินคยา |
ช่วงบ่าย |
เช็คอินสายการบิน Air Asia ไฟลท์ fd123 เดินทางสู่กรุงเทพมหานคร สนามบินดอนเมือง โดยสวัสดิภาพ |
หมายเหตุ
- การเดินทางตามเส้นทางสังเวชนียสถานเป็นการเดินทางในระยะทางพอสมควรและระหว่างทางไม่มีร้านอาหารตามแบบสากลที่เหมาะสมกับคนไทย จึงมีความจำเป็นต้องทานอาหารแบบแพ็คกล่องจากวัดไทยเพื่อความปลอดภัยด้านสุขลักษณะอนามัยของญาติโยมค่ะ
- ประเทศอินเดีย เป็นประเทศที่มีความไม่แน่นอนสูงจากปัจจัยหลายด้าน กำหนดการสามารถปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ ตามเหตุปัจจัยได้ตลอดเวลาตามเงื่อนไขด้านความปลอดภัย และความเหมาะสม โดยยึดถือผลประโยชน์ของญาติธรรมเป็นหลักค่ะ